การเสริมโหนกแก้ม หรือ ทางการแพทย์เรียกว่า Malar Augmentation  คือการเพิ่มความอวบอิ่ม ของใบหน้าส่วนโหนกแก้มแนว กึ่งกลางสันจมูกถึงรูหู

การเสริมใต้โหนกแก้ม หรือทางการแพทย์เรียกว่า Submalar Augmentation หรือที่นิยมเรียกกันจนติดปากว่า “แก้มส้ม” คือการเพิ่มความอวบอิ่มของใบหน้า ส่วนขากรรไกรบน แนวระดับปีกจมูกถึงติ่งหู

      ทั้งสองวิธีดังกล่าวนั้นเป็นการเสริมหรือเพิ่มความอวบอิ่มบริเวณส่วนกลางของใบหน้าวิธีที่นิยมคือการนำซิลิโคนทางการแพทย์ มาวางเสริมกระดูกส่วนนี้ให้นูนขึ้น ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ซึ่งนิยมมากในประเทศแถบตะวันตก

​

รูปแบบการเสริมซิลิโคนในส่วนกลางของใบหน้านั้น มี อยู่ 5 แบบ

 ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของใบหน้าส่วนที่มีความผิดปกติหรือเป็นปัญหา ที่ควรจะได้รับการแก้ไขเพื่อให้ดูสวยงามและได้สัดส่วนที่ถูกต้อง

     1. บริเวณโหนกแก้มดูเว้า หรือมีความนูนที่น้อยเกินไป หรือ เคยผ่าตัดทุบโหนกแก้มมาจนเกินพอดี แต่บริเวณใต้โหนกแก้มยังดูเต็มปกติ กรณีนี้ เราจะแก้ไขโดยผ่าตัดใส่ซิลิโคนเฉพาะบริเวณโหนกแก้มเท่านั้น

     2. บริเวณใต้โหนกแก้มหรือ “แก้มส้ม” มีความนูนที่น้อยเกินไป แต่บริเวณโหนกแก้มยังดูเต็มปกติ กรณีนี้เราจะแก้ไขโดยผ่าตัดใส่ซิลิโคนเฉพาะบริเวณใต้โหนกแก้ม เท่านั้น

     3. บริเวณโหนกแก้มดูนูนสูงจนเกินไป จึงทำให้บริเวณใต้โหนกแก้ม เห็นเป็นรอยต่อและดูเว้ามาก ลักษณะนี้พบมากในคนแถบเอเชีย รวมทั้งประเทศเรา กรณีเราจะแก้ไขโดยผ่าตัดใส่ซิลิโคน เฉพาะรอยต่อระหว่างโหนกแก้ม กับใต้โหนกแก้มเพื่อให้ดูกลมกลืนสวยงามเป็นธรรมชาติ

    4. บริเวณโหนกแก้มและใต้โหนกแก้มดูเว้า ( ต่อเนื่องกันทั้งสองบริเวณ ) กรณีนี้เราแก้ไขโดยการผ่าตัดใส่ซิลิโคน ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้กระดูกทั้งสองบริเวณดูอวบอิ่ม สวยงาม และกลมกลืนกัน

    5. บริเวณใต้ตาที่ต่อเนื่องจนถึงโหนกแก้ม ( ดูรายละเอียดการเสริมซิลิโคนใต้ตา )

       

เทคนิคการลงแผลผ่าตัด

   โดยทั่วไปมีหลายวิธี แต่ที่นิยมมาก มี 2 วิธี คือ การผ่าตัดผ่านทางช่องปาก และการผ่าตัดผ่านทางเปลือกตาล่าง ทั้งสองวิธีแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม กับคนไข้แต่ละคน และใช้เวลาไม่นาน ทำได้ง่าย สามารถกลับบ้านได้เลยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล โดยแพทย์จะนัดติดตามผลเป็นระยะตามความเหมาะสมในแต่ละคน การผ่าตัดด้วยวิธีเสริมซิลิโคนนั้น เป็นวิธีที่ใช้วัสดุทางการแพทย์ถาวร ซึ่งมีข้อดีคือ ถ้าไม่มีผลแทรกซ้อนก็ใช้การผ่าตัดเพียงครั้งเดียว ซึ่งสามารถอยู่ได้ยาวนาน เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการฉีดสารเติมเต็ม (filler)